fbpx
Tel: 02-6190044, 086-3201990
Tel: 02-6190044, 086-3201990

เนย์ ณัฐวดี

Au Pair in Bowie, Maryland
with Sillivan Family

สวัสดีค่ะ ชื่อเนย์ ณัฐวดี ชมชื่น จบจาก คณะวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร ตอนนี้เป็นออแพร์ให้กับ Sillivan Family อยู่เมือง Bowie, Maryland ค่ะ

รู้จักโครงการออแพร์ได้อย่างไร?

จริงๆรู้จักบริษัทอเมริกันเลิร์นนิ่งตั้งแต่ปี 2556 เพราะพี่ๆไปเปิดบูธที่มหาวิทยาลัย ครั้งแรกที่คุยกับพี่ๆคือจะไป Work and Travel ก่อน เพราะเรายังเรียนอยู่ชั้นปี 3 สรุปแม่ไม่ให้ไป ก็เสียใจที่เห็นเพื่อนได้ไปหาประสบการณ์ในต่างแดนกันแต่เราอดไป ช่วงเราฝึกงานเทอมสุดท้ายก่อนจบ เพื่อนที่เคยไป Work and Travel ก็มาชวนเราสมัครโครงการออแพร์ ครั้งแรกเราตัดใจเพราะแม่ไม่สนับสนุน แต่ลองดูรายละเอียดของโครงการก็ไม่ได้ใช้ทุนสูงมากนัก เหมือนได้กำไรมากกว่า ทั้งได้เรียนและทำงานไปด้วย เราเลยลองไปคุยกับแม่อีกที เพราะจบตั้งนานาชาติแต่ถ้าไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเลยก็พูดไม่คล่อง ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เราเลยต้องทำตัวให้ดูแพง หาโอกาสพัฒนาตัวเองเพราะความก้าวหน้าของตัวเองไม่ใช่ใคร แม่เลยบอกงั้นก็ลองดู เราก็เข้าไปกราบเท้างามๆหลายๆทีเลยคะ ฮ่าๆๆๆ

ทำไมถึงต้องเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็ก?

เริ่มแรกเราไปเก็บชั่วโมงเลี้ยงเด็กที่โรงเรียนแถวบ้านเรา เป็นเด็กเตรียมอนุบาลมีน้องทั้งหมด 30 กว่าคน เจอเด็กหลากหลายลักษณะ มีทั้งเฉยๆ ร้องไห้ ขี้แกล้ง เด็กเหล่านี้จะเป็นครูให้เราได้เรียนรู้วิธีการรับมือและการเข้าใจพฤติกรรมของเด็กๆในแต่ละลักษณะ เพราะจริงๆแล้วเราไม่สามารถรู้ได้ว่าเด็กที่เราจะไปดูแลที่อเมริกาจะเป็นเด็กประเภทไหน แต่เราสามารถพูดได้เลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ค่อนข้างต่างกับเด็กไทย เพราะคนอเมริกามักสอนให้ลูกเชื่อมั่นในตัวเองและมีเหตุผลซึ่งมันอาจจะยากถ้าน้องไม่ฟังเรา เพราะน้องคิดว่าสิ่งที่น้องทำนั้นถูกแล้ว และเราต้องมีเหตุผลสอนเค้าว่าถูกหรือผิด

au pair experience in USA
au pair experience in USA

สัมภาษณ์กับ Host Family?

เราเริ่มออนไลน์หลังเรียนจบอยู่ในช่วงรอรับปริญญา มีโฮสมา interview ประมาณ 4 บ้าน แต่ละบ้านคุยกันแค่2-3 วัน เขาก็บอกเราว่าเขาได้เลือกอีกคนแล้ว เราออนไลน์ได้เกือบครบปีและ เพื่อนเราอีกคนได้มาปรึกษาการสัมภาษณ์กับโฮสเป็นยังไงบ้าง เพื่อนเราก็บอกประวัติ Sillivan Family เพราะชื่อโฮสแม่และชื่อของน้อง อ่านยากมาก เราก็บอกเพื่อนให้เตรียมคำถามเยอะๆถามเกี่ยวกับน้อง โดยเฉพาะเรื่องภูมิแพ้ต่างๆ เพราะเรื่องนี้อันตรายมากถ้ารักษาไม่ทันเวลา ก่อนวันที่เพื่อนเราสัมภาษณ์กับบ้านนี้ โฮสแม่ก็เข้ามา interview profile ของเราด้วยและส่ง Email หาเราขอนัดสัมภาษณ์ เราเลยไปคุยกับเพื่อนว่าบ้าน Sillivan ขอนัดสัมภาษณ์ต่อจากเพื่อนเรา มันเป็นเรื่องบังเอิญมาก เรากับเพื่อนพูดกันตรงๆเลยว่า ไม่ว่าโฮสจะเลือกใคร เราจะสนับสนุนกันและกัน เพราะเราเป็นคนแชร์แนวคำถามและคำตอบให้เพื่อน แต่ผลสุดท้ายเราได้รับเลือก เราถามโฮสแม่ว่าทำไมถึงเลือกเรา โฮสแม่บอกเราถามคำถามเยอะดี เหมือนเตรียมการมาดีและพร้อมที่จะมาดูแลลูกเขา สำหรับเพื่อนเรา บ้านนี้เป็นบ้านแรกที่สัมภาษณ์ นางคงเกร็งและตื่นเต้นมากพอสมควร เพราะครั้งแรกเราก็เป็นเหมือนกัน

au pair experience in USA

สิ่งที่ได้รับจากการเป็นออแพร์

เราได้ก้าวข้ามตัวเองในการเดินทางที่ไกลบ้านมาก ต้องดูแลตัวเองและเอาตัวรอดกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ดังนั้นเตรียมตัวและเตรียมใจรับมือค่ะ เรื่องภาษาครั้งแรกที่มานี่เราพูดได้กากมาก ครั้งแรกที่มาถึงอเมริกาเราต้องเข้าค่ายปฐมนิเทศก่อน เจอออแพร์จากทั่วโลก ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม และสาวๆพวกนั้นใช้ภาษาอังกฤษไม่ต่างจากเรามากหรอก งูๆปลาๆบลาๆๆกันไป เราใช้ทั้งภาษามือ ท่าทาง บวกกับ search google กันเลยทีเดียว มันสนุกมากตอนเราแลกเปลี่ยนกัน เราให้เพื่อนต่างชาติลองมาม่าต้มยำกุ้ง เราบอกไม่เผ็ดมาก พอเพื่อนชิมนี้หน้าแดงเร็วมาก เป็นการสร้างมิตรภาพที่น่าสนุกที่สุด หลายคนกังวลภาษามาก เรากล้าพูดได้เลยว่าต่อให้คุณพูดไม่ค่อยได้ รู้ศัพท์น้อย แต่เมื่อคุณมาอยู่ที่นี้ คุณจะซึมซับกับมันทุกวัน เพราะเราเรียนแต่แกรมม่า และศัพท์ที่ส่วนใหญ่คนที่นี้ไม่ได้ใช้เป็นทางการนัก เพราะพวกเขาใช้ทั้งศัพท์แสลง ศัพท์ย่อ เยอะมาก เราจะเรียนรู้ได้เอง แต่เตรียมตัวมาก็ดีนะ เราให้น้องเป็นครูสอนอังกฤษ สอนพูดออกเสียงพวก accent และศัพท์ใหม่ๆ

อีกหนึ่งประสบการณ์ดีๆคือการได้มาเห็น มาเรียนรู้วัฒนธรรม ช่วงวันหยุดหรือเทศกาลต่างๆของที่นี่ มีประวัติและความเป็นมาที่น่าสนใจ เช่น Thanksgiving เหมือนวันครอบครัว คล้ายเทศกาลสงการต์บ้านเราเลย แต่เทศกาลนี้เน้นกินค่ะ อาหารเยอะมาก ไม่แปลกที่ร่างขยายกันเป็นแถว

และสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ พึ่งรู้ว่ามีญาติอยุ่รัฐเดียวกัน เป็นป้าที่เราไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน ป้าเป็นลูกพี่ลูกน้องแม่เรา เราเลยถือโอกาสทำความรู้จักกับครอบครัวของป้าที่นี่ ถือว่าการมาครั้งนี้ของเราคุ้มที่สุดในชีวิต

au pair experience in USA

"อาจจะเป็นก้าวใหญ่และลองก้าวข้ามมาต่างแดน ใช้ชีวิตและเรียนรู้สิ่งใหม่ สร้างมิตร เรียนรู้ภาษาและการใช้ชีวิตของคนต่างแดน เปิดตามองสิ่งที่เคยเห็นในหนังสือ ลองชิมอาหารหลากหลายชนชาติ โคตรคุ้มค่ะ ได้ประสบการณ์ ได้เรียนรู้ และได้เปิดโลกอีกใบที่เห็นได้กว้างกว่าในหนังสือค่ะ"

Facebooktwittermail