น้องโอ๋ กมลวรรณ
(มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี)
Dutch John Resort, Dutch John, UT
Summer Work and Travel in 2019
รีวิวงาน : Dutch John Resort, Utah ค้าา
ตำแหน่ง : Server
Rate: $2.25 + Tips (ถ้าเอาทิปรวมกับเงินที่ได้จากชั่วโมงงานก็จะได้ประมาณ $100 up ต่อวัน แล้วแต่วันจ้า วันไหนเงียบมากๆ ก็ไม่ถึง $100 ประมาณ 50-100+)
ค่าที่พัก: 250 ดอลต่อเดือน (อยู่เป็นรถบ้าน)
วันแรกที่ไปถึง: เจ้าของรีสอร์ทมารับถึงสนามบิน Salt Lake City ชื่อทอมสัน บอกเลยว่าเจ้าของรีสอร์ทมารับเองจริงๆใจดีมากกกกกก แล้วเป็นไฟท์ดึก ทอมสันก็พาไปเลี้ยงอาหารเย็นแล้วก็พาไปพักที่บ้านของเขา บ้านเขาสบายสุดๆไปเลย 555 วันรุ่งขึ้นก็ทอมสันก็พาเราและ เพื่อน ๆ ไปทำ Social Security Card จากนั้นก็พาไปรีสอร์ท ใช้เวลาขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงได้ ไปถึงก็ได้เจอผู้จัดการและเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ผู้จัดการก็ใจดีมากๆเช่นกัน เป็นกันเองสุดๆ ชื่อเดวิด นะ แล้วก็พาไปวอลมาร์ททุกอาทิตย์ มีปัญหาอะไรบอกได้ เช่น อยากหยุดวันนี้ อยากได้ชั่วโมงเพิ่ม อยากได้ชั่วโมงน้อย บอกเดวิดได้เลย (อนุญาตมั้ยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วยนะว่าแขกมากแขกน้อย
สถานที่และบรรยากาศ: Dutch John Resort อยู่บนภูเขา อารมณ์เหมือนอยู่บนดอย 555 ตกเย็นจะหนาวมากๆช่วงนั้น ตอนกลางคืนอากาศ 0 องศา ตื่นเช้ามา หิมะตกปรอยๆ เพราะเราไปกลางเดือนพฤษายังมีหิมะให้เห็นอยู่นิดหน่อย หลังจากนั้นอากาศจะร้อนมากตอนกลางวันไม่เห็นหิมะแล้ว อาการเย็นๆตอนกลางคืน ไปไหนก็จะเจอแต่ภูเขาและแม่น้ำ เหมาะสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ ลูกค้าส่วนมากที่มาที่นี้คือจะมาพักผ่อน ชมวิว แม่น้ำ ภูเขา ตกกลางวันก็ไปล่องแก่งและตกปลากัน ตกเย็นก็ปาร์ตี้รอบกองไฟ
ที่พัก: ใช้เวลาเดิน 2 นาทีจากที่พักไปที่ทำงาน ที่พักพนักงานอยู่เป็นรถบ้านที่มีทุกอย่าง เช่นครัว โต๊ะกินข้าว ห้องนอน ห้องน้ำ มีอ่างอาบน้ำด้วย คือมีครบทุกอย่าง แต่มันจะแคบๆ ปรับตัวยากนิดนึง อยู่ไปนานๆจะชินเอง แต่ตอนนี้เขากำลังสร้างบ้านให้พนักงานอยู่ เด็กปีต่อๆไปน่าจะได้อยู่เป็นบ้านมั้ง(ไม่แน่ใจ) แต่ราคาน่าจะแพงกว่ารถบ้าน
การทำงาน: เสิร์ฟอาหารก็จะทำงานเป็นกะ คือมีกะเช้าถึงเย็น และก็กะบ่ายถึงปิดร้าน ทำ 6 วัน หยุด 1 วัน ตารางงานผู้จัดการจะเปลี่ยนทุกอาทิตย์ ในส่วนของการทำงานพอลูกค้ามาถึงก็ ทักทาย เชิญลูกค้าไปนั่งเอาเมนูให้ลูกค้า ถามลูกค้าว่าจะรับเครื่องดื่มอะไร แล้วก็กลับมารับออเดอร์ คอยดูแลและเช็คลูกค้าว่าต้องการรีฟิลน้ำหรือเติมน้ำมั้ย อาหารเป็นไงบ้าง รับอะไรเพิ่มมั้ย ส่วนมากลูกค้าจะชวนเราคุย เราก็พูดคุยกับลูกค้าเยอะๆ ถ้าลูกค้าถูกใจเราบริการดีก็จะให้ทิปหนักๆ 55555 พอลูกค้ากลับเราก็ไปเก็บโต๊ะ ล้างจาน วนลูบไปจ้า บางทีมีลูกค้าเยอะๆ อารมณ์เหมือนเล่นเกมส์เสิร์ฟอาหาร เดินดูแลลูกค้าให้วุ่นเลย แต่เรามีงานเสริมคือ ช่วงเราเบรกหรือวันหยุด ผู้จัดการจะเรียกให้เราไปทำ Shuttle ขับรถของลูกค้า คือลูกค้าไปตกปลาจะทิ้งรถไว้ที่ต้นทางของเขื่อน แล้วเราก็ขับรถของลูกค้าจากต้นทางไปส่งรถให้ลูกค้าที่ปลายทางของเขื่อน ขับตามๆกันไปเป็นขบวนจะมีรถรีสอร์ทคันนึง ขับตามมารับเรากับเพื่อนร่วมงานกลับรีสอร์ท สนุกดีนะ ได้ชั่วโมงเพิ่มด้วย ใครขับรถเป็นแนะนำให้ทำใบขับขี่สากลไปด้วยนะ
เพื่อนร่วมงาน: เรามีเพื่อนร่วมงานทั้งหมด 7 ประเทศคือ อเมริกา ไทย จีน ฟิลิปปินส์ โรมาเนีย ลิธัวเนีย รัสเซีย อย่างเยอะ 555 (เขาเป็นเด็ก Work เหมือนเรา) ยกเว้นคนเมกันนะ เพื่อนๆน่ารักมาก เฟรนลี่ เป็นกันเองสุดๆ อายุไล่เลี่ยกัน ไปไหนไปกัน ลุยๆ ผลัดกันทำอาหารชาติตัวเองมาแบ่งกันกิน เพื่อนๆตลก เฮฮา ตกเย็นบางวันก็ก่อกองไฟปาร์ตี้กัน ทุกอาทิตย์ Flamimg Gorge resort เป็นเพื่อนกับ Dutch John resort จะจัดกิจกรรมทุกวันอังคารหรือพุธช่วงเย็น ให้ไปเล่นกีฬาและกินอาหารเย็นกันที่นั่น หรือว่าใครอยากจะไปโบสถ์ก็จะมีคนพาไป วันหยุดใครตรงกับใครบ้างก็นัดกันไปตกปลาล่องแก่ง ว่ายน้ำตอนกลางคืน และก็มีเที่ยวนอกสถานที่บ้าง ช่วงนั้นคือมีความสุขมากๆ คิดถึงเลย อยากกลับไปอีกกกกกก
ข้อดี
– เจ้าของรีสอร์ทกับผู้จัดการเป็นกันเอง
– เป็นธรรมชาติ อยู่บนภูเขา กลางคืนอากาศดี
– คนที่นั้นกับแขกที่มาเฟรนลี่มากๆ
– ที่พักใกล้กับที่ทำงาน (คืออยู่ในรีสอร์ทเลย)
– เก็บเงินได้ดี เพราะอยู่ห่างไกลจากห้าง
– เจอเพื่อนที่มาโครงการ Work&Travel หลายประเทศ และเพื่อนคือดีมากกกกก (แต่ละปีเพื่อนต่างกันเป็นรุ่นๆไป)
ข้อเสีย
– เดินทางลำบาก ไม่มีรถโดยสาร
– ห้างสรรพสินค้าอยู่ห่างไกลจากที่พัก (ได้ไปอาทิตย์ละครั้ง บางอาทิตย์ถ้างานเราเยอะ อาจจะไม่ได้ไป Walmart ต้องฝากเพื่อนซื้อแทน)
– อยู่เป็นรถบ้าน (ไม่รู้ว่ารุ่นต่อไปจะได้อยู่เป็นบ้านหรือยังนะ)
– ถ้าอยู่ที่พัก WiFi ไม่แรง ช้ามาก (ถ้าเล่นWiFi ตรงร้านอาหารพอได้อยู่) สัญญาณมือถือไม่ค่อยมี
